สำหรับเพื่อนที่มีปัญหากับการอ่านภาษาอังกฤษ อ่านยังไม่เก่ง อ่านยังไม่เร็ว บทความนี้ช่วยเพื่อนๆ ได้ครับ
ก่อนหน้านี้ผมเองก็เป็นเหมือนกันที่รู้สึกว่าตัวเองอ่านได้นะ แต่อ่านแล้วทำไมไม่ค่อยเข้าใจ เราเองก็รู้แกรมม่าในระดับนึง แต่การอ่านกลับไม่เข้าใจได้ทั้งหมดของบทความ
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนเป็นนะครับเวลาอ่านบทความแล้วไม่เข้าใจ อ่านแล้วมึน ยิ่งอ่านแล้วยิ่งรู้สึกอึดอัด ไม่รู้เรื่อง ใช้เวลาอ่านนานมาก
ปัญหานี้ผมแก้ได้เมื่อตอนที่เรียนปริญญาโทครับ ตอนนั้นผมจำได้เลยว่าต้องอ่าน Paper ภาษาอังกฤษเยอะมาก และ Paper พวกนั้นนี่ตัวก็เล็ก อ่านยาก แถมยังยาวอีก เรียกได้ว่า TOEIC นี่เด็กไปเลย
ผมเลยปรึกษาอาจารย์ของผม ว่าทำยังไงถึงจะอ่านได้ดีขึ้น ไวขึ้น และเข้าใจบทความได้ทั้งหมด
อาจารย์แนะนำมา 2 steps พอทำแล้วมันช่วยได้จริง ยิ่งพอฝึกทำบ่อยๆ จนชิน จนสกิลการอ่านดีขึ้น อ่านได้ไวขั้น และอ่านได้เข้าใจมากขึ้น เรียกได้ว่าจากสกิลการอ่านประมาณ 30% เพิ่มมาเป็น 80-90% เต็มร้อยครับ
ผมจะเรียกชื่อ เทคนิคสั้นแบบนี้นะครับ
- อ่านจาก fullstop to fullstop
- หา Subject กับ main Verb ซะ
จากนี้ไปจะเป็นการลงรายละเอียดพร้อมตัวอย่างอธิบายครับ
1. อ่านจาก fullstop to full stop
จำไว้นะครับว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอ fulllstop นั้นหมายความคือการจบของประโยคนั้นๆ
ในบทความอันนึงมันก็คือการรวมกันของประโยคเยอะๆ อะแหละ สังเกตุตัวเองไหมว่า เวลาอ่านประโยคสั้นๆเราอ่านได้นะ แต่พอไปอ่านบทความแล้ว ทำไมรู้สึกว่าไม่ค่อยรุ้เรื่อง
ดังนั้นการอ่านให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการ back to basic เลย อ่านที่ละประโยคให้เข้าใจ จาก fullstop to fullstop
เมื่อเข้าใจเนื้อหาของแต่ละประโยคแล้วการประติประต่อเรื่องของในบทความก็จะทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น อย่างมาก ครับ
คำแนะนำตอนฝึก
พยายามอ่านให้ได้ทุกประโยคครับ เข้าใจให้ได้ทุกประโยค ฝึกแบบนี้จนอ่านคล่องขึ้น และไวขึ้นครับ
มันจะส่งผลดีเมื่อเราฝึกฝนจนเก่งขึ้น อ่านได้ไวขึ้น ตอนไปสอบเนี่ยจะอ่านบทความ และทำข้อสอบบทความได้ดียิ่งขึ้นครับ
จงอ่านให้เข้าใจทั้งหมดให้ได้ อย่าเน้นแค่ skim and scan
ข้อสอบ TOEIC เดี๋ยวนี้ยากขึ้นครับ ชอบนักที่จะถามว่า บทความนี้เกี่ยวกับอะไร หรือถามรายละเอียดในย่อหน้าที่อื่นๆ ไม่ไม่ใช่แค่ย่อหน้าแรกของบทความครับ
โดยเฉพาะโจทย์ข้อที่เป็น 2 และ 3 บทความ โจทย์จะถามเสมอกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน ความเชื่อมโยงของเนื้อหาแต่ละบทความย่อย
ดังนั้นถ้าอ่านบทความแล้วเก็ทเนื้อหา เข้าใจได้ตั้งแต่รอบแรกที่อ่านนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะทำให้ทำข้อสอบได้ครับ
2. หา Subject กับ main Verb ซะ
พอเราอ่านจาก fullstop to fullstop นั้นคือการเข้ามาอ่านที่ประโยคย่อยๆ แต่ละประโยคของบทความครับ
สิ่งที่เราต้องทำคือ แยกให้ออกให้ได้ครับว่า Part of Speech ของแต่ละคำนั้นคืออะไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องหา 2 สิ่งนี้ให้เจอ Subject, main Verb
สองตัวนี้คือตัวหลักที่ทำให้เรารู้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ที่เป็นเนื้อหาหลักของประโยค
จากนั้นก็มาดูว่า Tense ของประโยคคืออะไร เพราะ Tesne จะบอกลักษณะของการกระทำของ verb เช่น ทำไปแล้ว, กำลังทำ หรือว่าทำเป็นปกติ (หรือบอกให้รู้ว่าเป็น Present, Past หรือ Future)
แค่รู้ Subject, main Verb และ Tense ก็จะทำให้เราเข้าใจประโยคแต่ละเนื้อหาหลักของประโยคได้แล้วครับ
ส่วนอื่นๆ ของประโยคจะเป็นเนื้อหาเสริมที่ทำหน้าที่อธิบายให้เนื้อหาประโยคชัดเจนยิ่งขึ้น
คำแนะนำตอนฝึก
สิ่งที่ยากที่สุดคือ เรายังแยกประโยคไม่เก่ง และเราจะฝึกมันยังไงหล่ะ?
เทคนิคการฝึกที่ผมแนะนำคือ ฝึกจากการทำข้อสอบ TOEIC part 5 หรือการฝึกแกรมม่านี่แหละครับง่าย และได้ผลที่ดีสุด
เรารู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่า Toeic พาร์ทแกรมม่านี่ เราต้องเลือกส่วนที่หายไป ดังนั้นในตอนหัดทำข้อสอบแกรมม่าเนี่ย
ให้หัดแยก Part of Speech ไปในตัวเลยครับ
ตัวอย่างนะครับ ผมหยิบตัวอย่างมาจากเฉลยข้อสอบ TOEIC Part 5 จากในแอพ MMR TOEIC มาให้เพื่อนๆ ดูนะครับ
แอพนี้มีทั้งใน IOS และ Android
The restaurant has a ____________ decorated room that is perfect for hosting children’s parties.
(A) cheerful
(B) cheerfully
(C) cheerfulness
(D) cheer
ตัวเลือกทั้งหมดเป็นคำคำเดียวกันต้องการหา ชนิดของคำที่เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งที่หายไป
ตำแหน่งที่หายไปเป็นกลุ่มคำ a ____________ decorated room ที่เป็นคำนามซึ่ง คำนามนั้นคือ room มี decorated เป็น adj มาขยาย room อีกที ดังนั้นตำแหน่งนี้ต้องเป็น adv ที่มาขยาย decorated
ตัวเลือกที่ถูกต้องคือ cheerfully ที่เป็น adv
(ร้านอาหารมีห้องพักที่ตกแต่งอย่างร่าเริงเหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงของเด็ก ๆ )
สิ่งที่เพื่อนๆ ควรทำตอนฝึกอยุ่เสมอคือ ต้องหา Subject และ Main varbให้เจอเสมอ
พยายามฝึกแบบไม่ต้องขีดเขียนอะไรให้ได้นะครับ เพราะในการสอบจริง การใช้ชีวิตจริง เราไม่มีโอกาสได้เขียนลงไป
ในโจทย์ Subject คือ The restuarant และ Main verb คือ has
พอเรารู้แล้วว่า ส่วนหลักของประโยค restuarant และ has
ส่วนต่อไปถ้าเราอยากรู้ให้ชัดเจนขึ้นว่าประโยคสื่ออะไร
ส่วนที่เป็น กรรมของประโยคคือ a cheerfully decorated room
ความหมายของประโยค The restaurant has a cheerfully decorated room ก็คือ “ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างร่าเริง”
เราจะเห็นได้ว่าโจทย์มีประโยคที่เป็น adj cluase มาขยาย cheerfully decorated room อยู่อีกคือ that is perfect for hosting children’s parties.
เราก็มาแปลได้อีกว่า “ห้องนี้เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงของเด็ก ๆ”
แกรมม่าที่จำเป็นในการฝึก
จากที่ผมอธิบายไปด้านบน ถ้าเพื่อนๆ งง ไม่รู้ว่าที่ผมพูดมานั้นเกี่ยวกับแกรมม่าอะไร
นี่เป็นแกรมม่า 3 เรื่อง ที่เพื่อนๆ ต้องหาความรู้เพิ่มครับ ใน internet มีคนสอนไว้มากมาย
- ส่วนประกอบของประโยคในภาษาอังกฤษ
- Part of Speech
- adj cluase
แกรมม่าสามเรื่องนี้ใช้ตลอดในทุกๆ ประโยคครับ
VDO สอนหา Subject mainverb และ ส่วนประกอบของประโยค
สำหรับเพื่อน ที่ยังรู้สึกว่าอยากหาตัวอย่างของการฝึกฝนที่มากขึ้น ผมแนะนำ VDO นี้ครับ สอนไว้ละเอียดมากๆ สามารถเข้าใจได้ทันทีครับ
ก่อนจากกันไป
สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไป การฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้เพื่อนๆ เก่งขึ้น แยกส่วนประกอบของประโยคได้ไวขึ้น และเก่ง TOEIC Part 5 ได้ดียิ่งขึ้น
ผมมีตัวช่วยให้เพื่อนฝึกฝนได้บ่อย ได้ทุกที่ เป็นแอพรวบข้อสอบ TOEIC format 2020 ที่มีการันตีจาก user ที่ใช้ว่าใกล้เคียงข้อสอบจริงแบบสุด
แอพนั้นคือ MMR TOEIC Reading Practice สามารถดาวน์โหลดได้จากปุ่มด้านล่างเลยครับ
ข้อดีของแอพนี้คือ
- ข้อสอบใหม่ new format 2023
- ทุกข้อมีเฉลยภาษาไทยอย่างละเอียด
- รวม TOEIC part 5, part 6 และ part 7
- อัพเดทข้อสอบทุกวัน
- มี Team support เป็นคนไทย ติดต่อได้ผ่านจากในแอพ
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนที่กำลังเตรียมสอบ TOEIC ทุกท่านนะครับ ไว้พบกันใหม่บทความถัดไปครับ