แนะนำ step การทำข้อสอบ Reading ให้ได้คะแนนมากที่สุด

ทำ Reading ไม่ทัน ไม่เป็นไร แต่เราต้องทำให้ถูกมากที่สุด

Admin

November 20, 2020
12:25 pm

เพื่อนๆ ที่สอบ TOEIC แทบจะทุกคนคงจะได้เจอกับปัญหานี้ คือ ทำข้อสอบไม่ทัน เหลือโจทย์พาร์ทอ่านอีกกว่า 30 ข้อ

ใช่ครับ ปัญหานี้ผมก็เป็น ซึ่งมันเป็นเรื่องปกตินะครับที่เราจะทำไม่ทัน เพราะโทอิคนั้นออกแบบมาสำหรับทดสอบพื้นฐานภาษาอังกฤษของเรา คนที่ทำข้อสอบทันนั้นเค้าเป็นระดับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษมาตลอด เรียกง่ายๆ ก็คือระดับ ปรมาจารย์ ฮ่าๆ

แต่ประเด็นที่ผมอยากจะชี้ก็คือ บางครั้งเราใช้เวลาทำข้อสอบบางช่วงมากไป จนทำให้ไม่ได้ทำข้อที่เราสามารถเก็บคะแนนได้ เรียกง่ายๆ ก็คือข้อง่ายๆ ที่เราไม่ได้ทำนั้นแหละ

วันนี้ผมเลยอยากจะมาแนะนำทริค การแบ่ง Step ว่าจะทำอะไรก่อน อะไรหลังดี ในพาร์ท Reading เพื่อที่จะทำให้เราไม่พลาดคะแนน ข้อที่ควรจะทำ และเพื่อที่ให้ได้คะแนนมาที่สุดครับผม

Step แรก ที่ควรทำคือ TOEIC พาร์ท 7

อ่านไม่ผิดครับ ผมแนะนำให้เพื่อนๆ ทำ TOEIC พาร์ท 7 ก่อนเป็นอันดับแรก

ปกติแล้วคนทั่วๆ ไปเราก็คงจะไล่ทำไปตั้งแต่พาร์ท 5 6 7 ตามลำดับแบบนี้เนอะ แต่สิ่งที่ผมบอกให้ทำพาร์ท 7 ก่อน แต่ไม่ใช่ทำทั้งหมดครับ

อย่างที่เรารู้กันพาร์ท 7 มีหลายบทความ ทั้งบทความง่าย และบทความยาก บทความสั้นๆ และบทความยาวๆ ผมแนะนำให้เพื่อนๆ ทำบทความสั้นๆ ก่อนครับ

เหตุผลที่ควรทำแบบนี้เพราะ

บทความมันมีประโยคที่ต้องอ่านเยอะ ถ้าเรามาทำทีหลังมันจะทำให้เราล้าครับ พอเราล้า เราเหนื่อย เราอาจจะหมดพลัง และท้อใจซะก่อนครับ
จากประสบณ์การที่แปลเฉลยมานั้น บทความสั้นๆ มันง่ายครับ และเชื่อผมได้เลยว่า คำตอบมันอยู่ในบทความนั้นแหละ ถ้าอ่านรู้เรื่อง อ่านเข้าใจก็ตอบได้แน่นอน
ถ้าโจทย์จะหลอกเราอะ โจทย์มันหลอกแบบไม่เนียนอะ 555 ตัวเลือกมันจะผิดไปจากเนื้อเรื่องแบบจับทางได้เลยครับ

บทความที่ผมแนะนำให้ทำก่อนนั้นจะเป็นบทความที่มีโจทย์ในบทความตั้งแต่ 2 3 และ 4 โจทย์ต่อบทความครับ หรือพูดง่ายๆ คือ ไอ้บทความที่มี 2 และ 3 รูปภาพเนี่ย เว็บไว้ก่อนได้เลยไม่ต้องทำ

ตัวอย่างของบทความที่ผมแนะนำให้ทำก่อนประมาณนี้ครับ

จำนวนข้อทั้งหมดที่เราจะเริ่มทำก่อนอยู่ตั้งแต่ข้อที่ 147 – 175 นับจำนวนแล้วก็จะประมาณ 30 ข้อครับ ซึ่งเราสามารถใช้เวลาได้ 20-25 นาทีครับผม

กรณีที่เพื่อน ไม่มั่นใจในสกิลการอ่านของตัวเองผมแนะนำให้เพื่อนอ่านบทความนี้ดูครับ ผมอธิบายวิธีการอ่านประโยคภาษาอังกฤษ และการแยกส่วนประกอบของประโยคภาษาอังกฤษ ไว้ที่นี่ครับ คลิก

Step ที่ต้องทำต่อไปคือ พาร์ท 5

พาร์ท 5 หลังจากที่เราทำพาร์ท 7 มาแล้ว เราสามารถใช้เวลากับมันได้เพิ่มนิดหน่อยครับ (ในกรณีที่เราคิดว่าจะไม่ทำข้อ 176-200 แล้วนะ)

วิธีการทำพาร์ท 5 ให้เร็วก็คือ ถ้าข้อไหนต้องเดา ก็เดาเลยครับ ฮ่าๆ เพราะว่าเราก็ไม่รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก เหมือนพูดเล่นๆ จะ แต่มันเป็นเรื่องจริง บางครั้ง เราไปใช้เวลาคิดกับบางข้อนานไป มันจะทำให้เราเสียโอกาสในการเก็บคะแนนข้ออื่นครับ

สิ่งที่เพื่อน ต้องฝึกเยอะๆ ในพาร์ท 5 คือ ฝึกทำข้อสอบให้เยอะ และบ่อยครับ ทุกครั้งตอนที่ทำลองต้องหัดวิเคราะห์ประโยคไปพร้อมกันเลยในตัว หา subject หา verb และควรจะบอกให้ได้ว่าตำแหน่งที่หายไปต้องการ part of speech อะไร

การฝึกแบบนี้จะช่วยให้เข้าในภาษาอังกฤษในพาร์ทแกรมม่าได้ดีขึ้นครับ

กรณีที่เพื่อน อยากทบทวนเรื่องของ grammar ผมมีบทความที่รวบ gramar ที่ต้องรู้ก่อนออกสอบเอาไว้แล้วเพื่อนๆ สามารถอ่านได้ที่นี่เลยครับ คลิก

คำแนะนำในการฝึก

การฝึกทำข้อสอบ grammar ทางที่ดีเราควรฝึกจากแบบฝึกหัดที่มีเฉลยภาษาไทยที่มาอธิบายอยางละเอียด เพื่อให้เราเข้าใจได้ด้วยครับว่า ที่ข้อนี้ถูก ถูกเพราะอะไร ข้อนี้ผิดผิดเพราะอะไร

ตัวอย่างข้อสอบ ที่มีเฉลยภาษาไทยอย่างละเอียด

ตัวอย่างข้อสอบอันนี้มาจากแอพรวมข้อสอบ New TOEIC 2020 ที่ชื่อว่า MMR TOEIC นะครับ โหลดได้ทั้ง IOS และ Android

Museum management reminds all visitors not to leave their children ________ inside the building.
(A) unfamiliar
(B) invisible
(C) unattended
(D) inattentive

วิเคราะห์ประโยค
ประโยคนี้มีประธานคือ Museum management
main verb คือ reminds
กรรมของประโยคคือ all visitors

นอกจากนี้ประโยคนี้มี verb อีก 1 ตัวเลือก to infinitive ซึ่งคือ to leave
กรรมของ to leave คือ their children ________
และมี adv of place คือ inside the building.

ตำแหน่งที่หายไปอยู่หลัง leave เป็น verb ที่สามารถเป็น Causative verb ได้ และบางครั้งการใช้ leave + noun + adj เป็นรูปแบบการใช้งานที่ไม่ผิดแกรมม่า

และเมื่อตัวเลือกทั้งหมดเป็น adj เราจะเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องจากตัวเลือกที่ให้ความหมายเข้ากับบริบทมากที่สุด

มาพิจารณาตัวเลือก

ตัวเลือก (A) unfamiliar แปลว่า ไม่คุ้นเคย
ตัวเลือก (B) invisible แปลว่า มองไม่เห็น
ตัวเลือก (C) unattended แปลว่า ไม่มีคนดูแล
ตัวเลือก (D) inattentive แปลว่า ไม่ตั้งใจ

เมื่อเอาตัวเลือกทั้งหมดมาแปลในประโยคแล้ว ตัวเลือก C มีความหมายที่เข้ากับบริมากที่สุด

“พิพิธภัณฑ์เตือนให้ผู้เยี่ยมชมทุกคนอย่าปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่ในอาคารโดยไม่มีใครดูแล”

ถ้าทำเสร็จแล้วทั้งหมดพาร์ท 5 เราจะได้จำนวนข้อทั้งหมดในพาร์ท 5 ตั้งแต่ข้อ 101-130 ทั้งหมดก็ 30 ข้อ เวลาที่ใช้ได้ประมาณ 20-25 นาทีครับ ตอนนี้เราจะทำได้ทั้งหมด 60 ข้อแล้วนะครับ กับเวลาที่ใช้ไป 40-50 นาที

Step ที่ 3 ที่ต้องทำคือ TOEIC พาร์ท 6

โทอิคพาร์ท 6 นี่เป็นพาร์ทรวมกันระหว่าง พาร์ท 5 และพาร์ท 7 มีทั้งที่เราต้องอ่านเพื่อเข้าใจทิศทางของความหมายบทความแล้ว ยังมีแกรมม่าที่เราต้องเลือกของตำแหน่งที่หายไปด้วย

แต่พาร์ท 6 นั้นก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ ในแต่ละบทความของพาร์ท 6 จะมี 3 ข้อที่เป็นแกรมม่า เราสามารถใช้วิธีการทำข้อสอบพาร์ท 5 มาทำกับพาร์ท 6 ด้วยก็ได้ครับ และข้อสุดท้ายเป็นโจทย์ที่เราต้องแปลเนื้อหาบทความ และเนื้อหาตัวเลือกที่เข้ากัน

ในตอนนี้เราจะใช้เวลาไปแล้วทั้งหมด 40-50 นาทีครับ จากทั้งหมด 75 นาที พาร์ท 6 นี้มีข้อสอบตั้งแต่ ข้อ 131-146 ทั้งหมดก็ 16 ข้อ เวลาที่ใช้ได้ก็คือ ประมาณ 12-15 นาที

ดังนั้นเมื่อเราทำพาร์ท 6 ครบแล้ว เราจะใช้เวลาทั้งหมดไปแล้วประมาณ 52-65 นาทีครับ เหลือเวลาให้เราอยู่ที่ประมาณ 10 นาทีในการไปทำพาร์ท 7 ที่เหลือ

Step สุดท้ายทำ พาร์ท 7 ที่เหลือ

ตอนนี้ข้อสอบที่เหลือของเราคือพาร์ท 7 ตั้งแต่ข้อ 176-200 ครับ

ข้อ 176-180 กับ 181-185 จะเป็นข้อที่มี บทความ 2 บทความ แต่ละบทความมี 5 ข้อ รวมแล้วก็ 10 ข้อ

ทำไมผมถึงพูดถึง ข้อ 176-185 เท่านั้นก็เพราะ นี่คือข้อความหวังที่อยากจะให้เพื่อนๆ ทำครับ ฮ่าๆ

10 ข้อในเวลา 10 นาที ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเหนื่อยเอาเรื่องนะครับ เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ เราทำข้อสอบไปเยอะแล้ว

แต่เราก็ต้องทำครับเพราะเวลายังไม่หมด

คำแนะนำในการทำของผมคือ

ผมอยากให้เพื่อนๆ อ่านบทความให้เสร็จก่อนมาทำโจทย์ครับ อ่านให้เร็ว และอ่านให้เข้าใจ จากนั้นค่อยมาทำโจทย์ครับ ในตอนทำโจทย์เนี่ย แน่นอนว่าเราคงจำเนื้อหาทั้งหมดไม่ได้ของบทความไม่ได้ แต่เราย้อนกลับไปดูมันได้ครับ

ซึ่งเมื่อเราอ่านไปก่อนหน้าแล้ว จะทำให้เรารู้ครับว่า เนื้อหาต่างๆ อยู่ตรงไหนบ้าง เวลาที่ทำโจทย์แล้วกลับไปอ่านอีกรอบ เราจะไม่เสียเวลาไปมากมาย กับการไล่หา เนื้อหาในบทความครับ

แบบนี้จะประหยัดเวลาได้มากกว่า ดังนั้นก่อนไปสอบ เพื่อนๆ ต้องฝึกอ่านเยอะๆ นะครับ อ่านให้บ่อย อ่านอะไรก็ได้ที่เราสนใจ อ่านให้เร็ว และอ่านให้เข้าใจ

กรณีที่เพื่อน ไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรดี ผมมีบทความมาแนะนำให้เพื่อนๆ เข้าไปอ่านครับ บทความนี้ผมแนะนำเว็บที่รวมบทความ น่าสนใจ เป็นภาษาอังกฤษ เอาไว้ เพื่อนๆ สามารถใช้เว็บที่ผมแนะนำ ไปฝึกอ่านภาษาอังกฤษได้เลยครับ ดูบทความที่นี่ คลิก

โจทย์ที่ต้องระวังในบทความมากกว่า 1 บทความ

ความโหดเหี้ยม ของโทอิคคือ ในกรณีที่มีบทความมากว่า 1 บทความคือ มันจะมีโจทย์ 1-2 ข้อที่ถามถึงความเกี่ยวโยงกันระหว่างบทความครับ

พูดแล้วจะไม่เห็นภาพ ผมจะยกตัวอย่างมาให้ดูครับ ตัวอย่างนี้มาจาก แอพ MMR TOEIC เช่นเคย แอพมีรวมข้อสอบ TOEIC ไว้ครบทุกพาร์ทเลยนะ ตั้ง 5 6 7 และมีเฉลยภาษาไทยทั้งหมดครับ ไปดูตัวอย่างข้อสอบกันเลย

จาก 2 บทความนี้จะมีโจทย์ 1 ข้อถามว่า

When will Ms. Rose most likely arrive at the Titus Conference Center?

(A) On August 7
(B) On August 14
(C) On August 15
(D) On August 16

เฉลยของข้อนี้คือ

จากบทความที่ 1 ย่อหน้าที่ 2 ในประโยค we ask that as the organizer of the event, you arrive at the conference center a day before the conference begins. ใจความของคำแปลคือ “ผู้จัดงานต้องมาที่ Titus Conference Center ก่อนวันงาน 1 วัน”

จากบทความที่ 2 ย่อหน้าที่ 1 ในประโยค We would like to reserve your conference space for the weekend of August 15 to 16. ประโยคนี้ทำให้เรารู้ว่า Ms. Rose ต้องการจะจอง conference room วันที่ August 15 to 16

จากบทความที่หนึ่ง และบทความที่สอง ทำให้สรุปได้ว่า Ms. Rose ต้องมาถึงที่ Titus Conference Center หนึ่งวันก่อนวันที่ August 15 to 16 ซึ่งก็คือ ตัวเลือก (B) On August 14

คำตอบที่ถูกต้องคือ (B) On August 14

จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า โจทย์มาเล่นเรื่องเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันในสองบทความ ซึ่งเราจำเป็นมากๆ ที่ควรจะอ่านทั้งสองบทความให้จบ ตั้งแต่แรก จะได้เข้าใจ และจำได้ว่า ตรงไหนส่วนที่บทความนั้นเกี่ยวข้องกัน

สุดท้ายแล้ว ถ้า 10 นาทีสุดท้ายของเราทำได้ครบ เราจะเหลือข้อที่ไม่ได้ทำแค่ 15 ข้อเท่านั้นครับ ซึ่งเป็นจำนวณเฉลี่ยที่คนปกติเค้าเหลือกันครับ 555 เพื่อนๆ ของแอด ส่วนมากก็เหลือ 10-15 ข้อครับครับ

สุดท้ายแล้วแอดอยากจะบอกไว้ว่า ทำได้เยอะ ใช่ว่าจะได้คะแนนเยอะ แอดอยากให้เราเน้นไปที่ทำให้ถูกจะดีกว่าครับ เรื่องทำครบไม่ครบ ไม่อย่ากังวลมากเลย

พยายามเอาเวลา และกำลังสมอง รวมถึงกำลังใจของเรา ไปจัดการกับข้อที่ง่าย และมีโอกาสถูกเยอะไว้ก่อน แล้วค่อยมาจัดการทำข้อที่ยากๆ ดีกว่าครับ

แล้วก็เทคนิคการทำแบบนี้เป็นเทคนิคส่วนตัว รวมทั้งเทคนิคที่ได้ใช้ร่วมกับเพื่อนๆ ของแอดนะครับ ไม่ได้บอกว่าต้องทำแบบนี้ถึงจะถูกนะ

เพราะสุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับตัวเพื่อนๆ ผู้อ่านเลยครับว่าชอบแนวไหน ถนัดสไตล์ไหนครับผม

สุดท้ายก่อนจากกันไป

ผมอยากจะย้ำให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าสุดท้ายแล้ว โทอิคต้องการวัดที่ความเข้าใจภาษาอังกฤษของเราครับ แค่การอ่านนั้น ไม่ช่วยทำให้เราเข้าใจได้ดีสักเท่าไหร่ ซึ่งวิธีเดียวที่จะทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นนั้นคือ “การฝึกฝนครับ”

กรณีนี้ ถ้าเราไม่อยากพลาดคะแนนโทอิค Reading เราต้องฝึกฝนทำโจทย์ Grammar พาร์ท 5 6 และ 7 ให้เยอะครับ และแบบทดสอบนั้นควรมีเฉลยที่อธิบายให้รู้ด้วยว่า ที่เราถูกนั้นถูกเพราะอะไร และผิดเพราะอะไร

แนะนำแอพ MMR TOEIC Reading Practice ให้เพื่อนๆ โหลดมาฝึกฝนกันครับ