ETS NEW TOEIC TEST
2021 FORmat(2)
เล่มฟ้าแดงเหลือง (LC+RC) มีเฉลยภาษาไทย
แจกหนังสือแบบฝึกหัด TOEIC แบบใหม่ Format ปี 2021 จัดเต็มกับข้อสอบจาก ETS ทั้งหมด 5 ชุด Full Reading & Listening Test พร้อมไฟล์เสียง และเฉลย พร้อมดาวน์โหลดเป็นไฟล์ PDF
รายละเอียดของข้อสอบโทอิค
แบบใหม่
Listening Section
Photograph 6 ข้อ
Questions – Responses 25 ข้อ
Short Conversations 39 ข้อ
Short Talks 30 ข้อ
Reading Section
Incomplete Sentenses 30 ข้อ
Text Completions 16 ข้อ
Reading Comprehensions 59 ข้อ
สำหรับคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของการสอบ TOEIC เป็นครั้งแรก อาจรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจว่าการสอบ TOEIC คืออะไร และควรเลือกสอบแบบไหนดี เพราะมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น TOEIC Listening & Reading, TOEIC Speaking & Writing หรือ TOEIC Bridge
ทำความรู้จักกันก่อนว่า TOEIC คืออะไร ?
TOEIC หรือ Test of English for International Communication คือการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับใช้สื่อสารเพื่อการทำงานในระดับสากล การสอบ TOEIC ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากองค์กรและบริษัทชั้นนำทั่วโลก เนื่องจากเป็นมาตรฐานสากลที่สะท้อนถึงทักษะภาษาอังกฤษที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน
ทำไมต้องสอบ TOEIC ?
การสอบ TOEIC มีข้อดีหลายประการ ซึ่งอาจสรุปได้ดังนี้
- เพิ่มโอกาสในการทำงาน : หลายบริษัทในปัจจุบันกำหนดให้ผู้สมัครมีคะแนน TOEIC เพื่อเป็นเกณฑ์พิจารณาเข้าทำงาน
- พัฒนาตนเอง : การสอบ TOEIC ช่วยให้ทราบถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของทักษะภาษาอังกฤษ และเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจ : เมื่อมีคะแนน TOEIC อยู่ในระดับสูง ๆ จะช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน
TOEIC มีกี่รูปแบบ ต่างกันอย่างไร ?
การสอบ TOEIC แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก โดยเน้นวัดทักษะที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้สอบ ดังนี้
1. TOEIC® Listening & Reading
TOEIC® Listening & Reading คือการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เน้นทักษะการฟังและการอ่าน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มทักษะ Receptive Skills หรือทักษะในการรับสาร การทดสอบนี้ออกแบบมาเพื่อประเมินผู้ใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับที่ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา โดยมีมาตรฐานการสอบที่แม่นยำและน่าเชื่อถือสูง
รูปแบบข้อสอบ
การสอบเป็นแบบ Multiple Choice ผู้สอบต้องฝนระบายคำตอบบนกระดาษ โดยข้อสอบทั้งหมดมี 200 ข้อ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
- การฟัง (Listening) จำนวน 100 ข้อ ใช้เวลา 45 นาที
- การอ่าน (Reading) จำนวน 100 ข้อ ใช้เวลา 75 นาที
รูปแบบการคิดคะแนน
คะแนนเต็มของ TOEIC® Listening & Reading คือ 990 คะแนน โดยแบ่งเป็น
ทักษะการฟัง (Listening) เต็ม 495 คะแนน
ทักษะการอ่าน (Reading) เต็ม 495 คะแนน
ผลสอบจะมีคำอธิบายผลคะแนน (Score Descriptors) แสดงระดับความสามารถของผู้สอบตามมาตรฐาน Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ตั้งแต่ระดับ A1 ถึง C1
เหมาะกับใคร
TOEIC® Listening & Reading เหมาะสำหรับ ทั้งนักศึกษา บุคลากรในองค์กร และผู้สมัครงานที่ต้องการประเมินทักษะการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษของตนเอง อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพิจารณาเข้าทำงาน การเลื่อนตำแหน่ง ตลอดจนใช้เป็นเกณฑ์ในการสำเร็จการศึกษาของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ด้วย
2. TOEIC® Speaking & Writing Testing Program
TOEIC® Speaking & Writing คือการทดสอบที่เน้นวัดทักษะการพูดและการเขียน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มทักษะ Productive Skills โดยการทดสอบนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ที่ต้องการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการทำงานและการติดต่อธุรกิจ
รูปแบบข้อสอบ
การสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
- การพูด (Speaking) จำนวน 11 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- การเขียน (Writing) จำนวน 8 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
รูปแบบการคิดคะแนน
คะแนนเต็มของแต่ละส่วนคือ 200 คะแนน โดยประเมินจากหลายปัจจัย เช่น การออกเสียง โครงสร้างประโยค และความชัดเจนในการสื่อสาร
ผลคะแนนสามารถใช้เทียบเคียงตามมาตรฐานสากลด้านภาษา Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ตั้งแต่ระดับ A1-C1 และเหมาะสำหรับการประเมินทักษะที่เกี่ยวกับการสื่อสารในเชิงธุรกิจ
เหมาะกับใคร
TOEIC® Speaking & Writing เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารโดยตรง เช่น ผู้ที่ทำงานในภาคธุรกิจ สายงานที่ต้องติดต่อสื่อสารกับต่างชาติ การเจรจา การนำเสนองาน หรือนักศึกษาที่ต้องการฝึกฝนทักษะการพูดและการเขียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการใช้ภาษาอังกฤษในระดับมืออาชีพ
3. TOEIC Bridge® Listening & Reading Testing Program
TOEIC Bridge® Listening & Reading คือการทดสอบที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง A1-B1 โดยเน้นทักษะการฟังและการอ่านที่ใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานทั่วไป
รูปแบบข้อสอบ
การสอบเป็นแบบ Multiple Choice มีทั้งหมด 100 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
- การฟัง (Listening) จำนวน 50 ข้อ ใช้เวลา 25 นาที
- การอ่าน (Reading) จำนวน 50 ข้อ ใช้เวลา 35 นาที
รูปแบบการคิดคะแนน
คะแนนเต็มของ TOEIC Bridge® คือ 180 คะแนน โดยแบ่งเป็น
- ทักษะการฟัง (Listening) เต็ม 90 คะแนน
- ทักษะการอ่าน (Reading) เต็ม 90 คะแนน
ผลคะแนนสามารถเทียบเคียงกับมาตรฐาน Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ตั้งแต่ระดับ A1 ถึง B1 เพื่อประเมินทักษะภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับการเรียนหรือทำงานเบื้องต้น
เหมาะกับใคร
TOEIC Bridge® เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง และต้องการประเมินทักษะการฟังและการอ่านเพื่อการพัฒนาภาษา ทั้งในชีวิตประจำวัน การศึกษา หรือการทำงาน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการวัดระดับภาษาอังกฤษของพนักงานในระดับเบื้องต้นด้วย
สรุปแล้วควรเลือกสอบแบบไหนดี ?
เตรียมตัวสอบ TOEIC อย่างมั่นใจด้วยแอปพลิเคชัน Memmoread
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าโทอิคคืออะไร สำหรับใครที่มองหาตัวช่วยเตรียมสอบ เพื่อเพิ่มคะแนน TOEIC ให้ถึงเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจ แนะนำเลยกับ Memmoread แอปพลิเคชันที่อัดแน่นไปด้วยคลังข้อสอบอัปเดตใหม่ให้ทุกสัปดาห์ ครอบคลุมทั้ง Listening และ Reading Test แนวใหม่ล่าสุด (2020-2024) พร้อมเฉลยภาษาไทยอย่างละเอียดในรูปแบบ Answer script ช่วยให้เข้าใจง่ายและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ภายในแอปฯ ยังมีฟังก์ชันคำนวณคะแนนทันทีหลังทำข้อสอบเสร็จ พร้อมตัวอย่างข้อสอบที่มีให้ฝึกฝนแบบจุใจถึง 10,000 ข้อ ทำให้รู้ว่า ควรอ่านเพิ่มเติมตรงจุดไหน หรือทบทวนส่วนใด ถึงจะช่วยเพิ่มโอกาสทำคะแนนสอบ TOEIC ให้สูงขึ้นได้
ข้อมูลอ้างอิง
TOEIC® Program. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567. จาก https://cpathailand.co.th/toeic-program/
ความรู้ TOEIC สำหรับเตรียมสอบด้วยตัวเอง
คลังข้อสอบ TOEIC
คลังข้อสอบที่รวบรวมข้อสอบที่ Share ไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตมารวมไว้ที่เดียวกัน
พร้อมเฉลยให้ดาวน์โหลด อัพเดททุกอาทิตย์