Passive Voice ใช้ยังไง ? เข้าใจใน 5 นาที พร้อมลุยสนามสอบ

สรุป Passive Voice ให้เข้าใจในบทความเดียว

Admin

Passive Voice คือ แกรมมาร์ที่คนเรียนภาษาอังกฤษต้องเจอ

Table of Contents

ท่ามกลางเหล่าคนเรียนภาษาอังกฤษจำนวนไม่น้อย เมื่อพูดถึง Passive Voice ทีไรต่างก็พากันส่ายหน้าพรืด เพราะลำพังแค่ผันรูปประโยค Active Voice ปกติก็สับสนจะแย่อยู่แล้ว นี่ยังมี Passive Voice มาทำให้งงเพิ่มเข้าไปอีก ! แต่ใจเย็น ๆ กันก่อน เพราะความจริงแล้ว หากทำความเข้าใจดี ๆ Passive Voice คือแกรมมาร์ที่ไม่ได้ยากอย่างที่กลัวกันไปเองเลย

ดังนั้น บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ Passive Voice แบบสรุป เข้าใจง่ายภายในเวลาเพียง 5 นาที ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ TOEIC รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเข้าใจถึงหลักการว่า Passive Voice ใช้ยังไง รวมถึงประโยชน์ของแกรมมาร์ที่ (เคยคิดว่า) ยุ่งเหยิงนี้ได้อย่างชัดเจนแน่นอน !

 

Passive Voice คืออะไร ?​

Passive Voice คือ ประโยคกรรม เป็นรูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษที่เน้นความสำคัญไปที่ผู้ถูกกระทำหรือสิ่งที่ถูกกระทำ แทนที่จะเน้นผู้กระทำเหมือนในประโยคทั่วไป (Active Voice) โดยโครงสร้างของ Passive Voice จะทำให้กรรมของประโยค Active กลายเป็นประธานของประโยค Passive ดังนี้

Subject (ผู้ถูกกระทำ) + Verb to be + Past Participle (กริยาช่องที่ 3) + (by + ผู้กระทำ)

ตัวอย่างเช่น

                • Active: Julie eats cake.
                • Passive: Cake is eaten (by Julie).

Passive Voice ใช้ยังไง ในสถานการณ์ไหนบ้าง ?​

เมื่อไม่รู้หรือไม่ต้องการระบุผู้กระทำ

ในบางครั้งเราอาจไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ หรือไม่ต้องการระบุผู้กระทำเพราะไม่จำเป็น สำหรับกรณีนี้ มักนิยมใช้ Passive Voice ตัวอย่างเช่น

  • Ben’s iPhone was stolen last night. (ไอโฟนของเบนถูกขโมยเมื่อคืนนี้)
  • The ancient artifacts were discovered in the ruins. (โบราณวัตถุถูกค้นพบในซากปรักหักพัง)

เมื่อผู้กระทำไม่สำคัญหรือเป็นที่รู้กันทั่วไป

สำหรับบางบริบทของประโยค อาจไม่ได้ต้องการเน้นผู้กระทำมาก หรือเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่า ใครเป็นผู้กระทำโดยไม่จำเป็นต้องระบุ เช่น

  • The newspaper is delivered once a day. (หนังสือพิมพ์ถูกส่งวันละครั้ง)
  • English is spoken in many countries. (ภาษาอังกฤษถูกพูดในหลายประเทศ)

เมื่อต้องการเน้นผู้ถูกกระทำ หรือผลลัพธ์ของการกระทำ

แน่นอนว่าจะขาดข้อนี้ไปไม่ได้ เพราะฟังก์ชันหลักของ Passive Voice คือการเน้นความสำคัญไปที่ผู้ถูกกระทำหรือผลลัพธ์ของการกระทำ แทนที่จะเน้นผู้กระทำอย่าง Active Voice ตัวอย่างเข่น

  • The Mona Lisa was painted by Leonardo da Vinci. (ภาพโมนาลิซาถูกวาดโดยเลโอนาร์โด ดา วินชี)
  • That best-selling novel was written by Chertam’s friend. (นิยายขายดีเล่มนั้นถูกเขียนโดยเพื่อนของเฌอแตม)

ในการเขียนเชิงวิชาการ หรือวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ดูเป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือ

หากใครใช้ชีตเรียนภาษาอังกฤษ หรืออ่านหนังสือภาษาอังกฤษเชิงวิชาการบ่อย ๆ คราวหน้าลองสังเกตรูปประโยคในนั้นดู แล้วจะพบว่ามีการใช้ Passive Voice บ่อยมาก เนื่องจากเทนส์นี้ช่วยให้งานเขียนดูเป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่น

  • The experiment was conducted under controlled conditions. (การทดลองถูกดำเนินการภายใต้สภาวะการควบคุม)
  • The data were analyzed using statistical software. (ข้อมูลถูกวิเคราะห์โดยใช้ซอฟต์แวร์ทางสถิติ)

เมื่อต้องการสร้างความสุภาพ หรือหลีกเลี่ยงการกล่าวโทษโดยตรง

ด้วยความที่เน้นการกระทำ หรือผลลัพธ์มากกว่าตัวบุคคล ทำให้ Passive Voice สามารถใช้เพื่อสร้างความสุภาพในการสื่อสาร หรือเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวโทษใครโดยตรงได้ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์มากในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน เช่น

  • It has been decided that the concert will be postponed. (มีการตัดสินใจว่าคอนเสิร์ตจะถูกเลื่อนออกไป)
  • Mistakes were made in the handling of the situation. (มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการรับมือกับสถานการณ์นี้)

การฝึกทำข้อสอบ Passive Voice เพื่อเตรียมสอบ TOEIC

วิธีเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice แบบสรุป

ก่อนจะจากกันไป เรามาทวนวิธีการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice แบบสรุปเคลียร์ ๆ อีกครั้ง บอกเลยว่า 3 ขั้นตอนนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ สนามสอบไหนก็เอาอยู่ !

1. ย้ายกรรมของประโยค Active มาเป็นประธานของประโยค Passive

อันดับแรก ให้นำกรรมของประโยค Active มาวางไว้ที่ตำแหน่งประธานของประโยค Passive เช่น

  • Active: Tai (ประธาน) prepares the new project. (กรรม).
  • Passive: The new project (ประธานใหม่) …ก่อนจะจากกันไป เรามาทวนวิธีการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice แบบสรุปเคลียร์ ๆ อีกครั้ง บอกเลยว่า 3 ขั้นตอนนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ สนามสอบไหนก็เอาอยู่ !

2. เปลี่ยนกริยาให้อยู่ในรูป Verb to be + Past Participle

ต่อมา เปลี่ยนกริยาให้อยู่ในรูปแบบ Passive โดยใช้ Verb to be ในรูปกาลที่เหมาะสม ตามด้วย Past Participle ของกริยาหลัก ดังนี้

  • Active: Tai prepares the new project.
  • Passive: The new project is prepared …

3. ใส่ "by" หน้าผู้กระทำ (ถ้าต้องการระบุ)

หากต้องการระบุผู้กระทำ ให้ใส่ “by” หน้าผู้กระทำ ซึ่งเดิมเป็นประธานในประโยค Active แต่หากไม่ต้องการระบุ จะไม่ใส่ก็ไม่ผิดเช่นกัน

  • Active: Tai prepares the new project.
  • Passive: The new project is prepared by Tai.

สำหรับใครที่กำลังเตรียมสอบ TOEIC เพียงเข้าใจหลักการและวิธีใช้ Passive Voice ที่ได้อธิบายไปข้างต้นนี้อย่างถ่องแท้ ก็เป็นอันว่าหมดห่วง แต่ถ้าอยากมั่นใจและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ก้าวกระโดดยิ่ง ๆ ขึ้นไป ที่ Memmoread เรามีแบบฝึกหัด TOEIC มากกว่า 10,000 ข้อ พร้อมเฉลยอย่างละเอียด ให้เพื่อน ๆ ได้โหลดไปอ่านเตรียมสอบแบบจุใจ อยากได้คะแนนเท่าไรก็ไม่ไกลเกินฝันแน่นอน !

ข้อมูลอ้างอิง