Success story

รีวิวสอบ TOEIC 2022 ไม่ลงคอร์สออนไลน์ ไม่ได้ติวข้อสอบกับติวเตอร์โทอิค เรียนด้วยตัวเองแบบด้วยลำแข้ง

845-ชัยมงคล

รีวิวการเตรียมตัวสอบ TOEIC เพิ่มคะแนนสอบ 200 คะแนน จาก 635 เป็น 845

กับข้อสอบแบบใหม่ fomat ปี 2021

ขอบคุณเจ้าของเฟสบุ๊ค Kanvara Kaewchinda

รีวิวสอบ TOEIC 2022 ไม่ลงคอร์สออนไลน์ ไม่ได้ติวข้อสอบกับติวเตอร์โทอิค เรียนด้วยตัวเองแบบด้วยลำแข้ง

รีวิวการเตรียมตัวสอบโทอิค 2022 ✨💕

ไม่ลงคอร์สออนไลน์ ไม่ได้ติวข้อสอบกับติวเตอร์โทอิค เรียนด้วยตัวเองแบบด้วยลำแข้ง 5555555 เน้นของฟรี ตามแหล่งต่างๆ
ส่วนตัวมีพื้นฐานการทำข้อสอบโทอิคมาก่อน เคยสอบโทอิครูปแบบเดิมคะแนนสูงสุดตอนนั้นคือ 650 คะแนน แต่ครั้งนี้คือครั้งแรกสำหรับโทอิครูปแบบใหม่ สอบครั้งแรกหลังจากไม่ได้สอบมา 4 ปี พื้นฐานการฟังคิดว่าพัฒนาจากการเรียนที่ต่างประเทศกับการคุยกับเพื่อนต่างชาติ ส่วนการอ่านนั้นเริ่มใหม่หมดเลย อยากจะแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวให้กับคนที่จะไปสอบในเร็วๆนี้ เข้ามาอ่านอาจจะมีกำลังใจ มีแรงทำข้อสอบต่อ อยากส่งต่อเทคนิคต่างๆเผื่อจะช่วยอัพคะแนนได้บ้างไม่มากก็น้อย

การเตรียมตัวก่อนสอบ 🥱

การเตรียมตัวของเราการสอบ เราใช้เวลาในการเตรียมตัวทั้งหมดประมาณ 1 เดือนกับอีกประมาณ 10 วัน เราเริ่มจากการทดสอบความรู้เดิมโดยการทำข้อสอบพรีเทสก่อน โดยดาวน์โหลดข้อสอบจากเว็บ memoread.website ข้อสอบมีให้ทำหลายชุดมากๆ แต่ในเว็บไซต์มีปัญหาในการโหลดข้อสอบต้องทักไปขอข้อสอบจากแอดมินโดยแอดผ่านทางไลน์ แล้วแจ้งชุดข้อสอบที่ต้องการได้เลย แอดมินตอบกลับเร็วมาก สามารถดาวน์โหลดข้อสอบมาทำได้ทันที โดยเราเริ่มทำจากข้อสอบสีฟ้าม่วง ชุดที่ 1 เพื่อดูระดับคะแนนเริ่มต้นก่อนว่าเราอยู่ในระดับไหน แล้ววิเคราะห์คะแนนแต่ละพาร์ทของข้อสอบว่าเราอ่อนเรื่องอะไรบ้าง ข้อไหนที่ตอบแล้วไม่ถูกเขาถามเรื่องอะไร พอรู้ระดับของตัวเองก็เริ่มเรียนด้วยตัวเอง โดยหาความรู้จากแหล่งข้อมูลที่ ฟรี ตามเว็บไซต์ของ memoread บ้าง ตามช่อง youtube บ้าง ในเว็บของ memoread ก็จะมีบทความต่างๆให้อ่านเยอะแยะและเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวมาก และช่อง youtube ต่างๆ เช่น ช่องของครูดิว ติวโทอิคฟรี ช่องครูหวาน English on air ช่อง toeickiller by krupoom และในกลุ่มร่วมด้วยช่วยติวโทอิคเราก็จะชอบตามอ่านบทความต่างๆ วิธีการเตรียมตัว ทริคของแต่ละคน ทำยังไงจะสอบได้คะแนนสูงๆ แต่ละคนก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกัน อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังในการลุกขึ้นมาทำข้อสอบ มีไฟอีกครั้ง ต้องขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆที่ฟรีและดีมากๆนี้จริงๆ

📍การเตรียมตัวใน 15 วันแรก (ข้อสอบ 10 ชุดรอบ 1)

วันแรก เมื่อเรารู้ระดับคะแนนของตัวเองแล้ว อันดับแรกก็ต้องกำหนดเป้าหมาย เราตั้งเป้าหมายในตอนแรก อยากได้คะแนน 700+ คะแนน จากนั้นเวลาว่างของในแต่ละวันก็จะดู หาความรู้ในช่อง youtube เริ่มจากเรื่อง Part of speech, Tense , past participle , gerund แล้วก็ grammar เรื่องอื่นๆที่จำเป็น ตอนเย็นหลังกินข้าวเย็นเสร็จทุกเย็น ก็จะเริ่มทำข้อสอบไล่จาก ข้อสอบฟ้าม่วงชุด 1 ในวันถัดไปของทุกเย็นก็จะไล่ทำไปจนครบ 5 ชุด จับเวลาเสมือนจริง แต่เริ่มจากเขียนคำตอบลงในสมุดโน้ตก่อนแล้วตรวจนับคะแนนเอา พอครบ 5 ชุดของฟ้าม่วง ก็เริ่มทำฟ้าแดงเหลืองตั้งแต่ชุดที่ 1-5 ของทุกวันตอนเย็น ทำแบบเดิม จนครบ ทั้งหมด 10 ชุด ภายในช่วง 15 วันแรกอาจจะมีพักเบรกบ้าง วันไหนขี้เกียจก็ไม่ทำ แต่ต้องทำให้ครบทั้ง 10 ชุดเพื่อรู้ความเร็วในการทำข้อสอบของตัวเอง รวมคะแนนแต่ละชุด วิเคราะห์คำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย หลังทำข้อสอบเสร็จในแต่ละชุด เราก็จะมาตรวจและจดคำศัพท์ที่ไม่รู้ในสมุด แล้วก็ท่องให้จำได้ ระหว่างวันก็เอามาท่องเพื่อกันลืม ท่องคำศัพท์ของวันที่ 1 แล้วก็ท่องของวันที่ 2 ต่อกันไปเรื่อยๆจนจำได้ แล้วก็จดข้อผิดพลาดในแต่ละชุดพลาดเรื่องอะไร ก็ไปเน้นเรื่องนั้นให้เข้าใจ

📍การเตรียมตัวใน 15 วันหลัง (ข้อสอบ 10 ชุดรอบ 2)

หลังจากทำข้อสอบทั้งหมด 10 ชุดเสร็จ เราก็จะมีวันพักประมาณ 1-2 วัน ให้กำลังใจตัวเอง แล้วก็จะเริ่มทำทั้งหมดแบบเดิมโดยเริ่มทำรอบที่สอง ไล่จากฟ้าม่วง ชุด 1-5 ต่อด้วยฟ้าแดงเหลือง ชุด 1-5 แต่รอบนี้จะจับเวลาเสมือนจริง โดยพาร์ทฟังก็ปล่อยรันไปตามเทป หลังจบพาร์ทฟังก็ต่อด้วยพาร์ทอ่าน จับเวลาถอยหลัง 75 นาที โดยรอบนี้เราจะทำในกระดาษ answer sheet แบบฝนจริงๆ เพื่อให้คุ้นชินกับความเร็วในการฝนของตัวเอง เมื่อรู้ข้อผิดพลาดในแต่ละชุดข้อสอบก็จะพยายามทำให้เร็วมากขึ้น (แต่ก็ทำเร็วขึ้นจริงๆเพราะแอบจำคำตอบบางข้อได้) พอจับเวลาจริงก็จะรู้ว่าทำไม่เคยทันเลย บางชุดทำไม่ทัน 10 ข้อ บางชุดไม่ทัน 5 ข้อ แต่ก็พยายามบอกตัวเองวันจริงต้องทำให้ทัน 555555

📍การเตรียมตัวในช่วงสุดท้าย

เราก็ตามเก็บข้อที่ไม่แม่น หรือ ไม่แน่ใจ คำศัพท์ไหนที่ยังจำไม่ได้ บวกกับทำข้อสอบผ่านแอพ memoread พาร์ทอ่าน (แอพเสียเงินดาวน์โหลด ราคา 149 บาท คุ้มค่ามาก) สามารถเลือกทำเป็นควิซย่อยๆได้ แล้วแต่เราจะแบ่งเป็นพาร์ท 5,6,7 หรือทำทั้งหมดก็ได้ หรือเวลาว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็หยิบขึ้นมาทำข้อสอบเล่นๆ ควิซข้อสอบ 6 ข้อ อันนี้ดีมาก สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ระหว่างวันก็หยิบขึ้นมาทำ โดยทุกพาร์ทจะมีเฉลยแบบละเอียดพร้อมคำแปล พร้อมจับเวลาได้เสมือนจริง (แต่ส่วนตัวทำข้อสอบจากแอพแอบปวดหัวนิดนึงเพราะต้องอ่านบทความยาวๆผ่านจอทำให้ไม่ค่อยมีสามาธิจดจ่อกับข้อสอบเท่าไหร่ แต่ในส่วนของความคุ้มค่าของแอพ คือ คุ้มมาก ถ้าไม่ติดเรื่องอ่านบทความยาวๆผ่านจอ) ในช่วงนี้เราก็จะทำข้อสอบชุดชมพู เขียว 3 ชุด แล้วก็ actual test บ้างถ้าวันไหนไม่ขี้เกียจ 5555555 พอใกล้วันสอบจริงก็จะไม่จริงจังกับข้อสอบแล้ว 2 วันก่อนสอบจริง จัดการตัวเอง พักผ่อนสมอง เตรียมใจสู้ข้อสอบจริง ทำควิซย่อยเล่นๆ ก่อนไปสอบนอนหลับให้เพียงพอ พยายามไม่ตื่นเต้น กินข้าว เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย จะได้ไม่กังวลเวลาทำข้อสอบ

📌คำแนะนำ

แนะนำตอนซ้อมทำข้อสอบให้เราคอยดูข้อสอบกับกระดาษคำตอบที่เราฝนไปพร้อมกัน เช่น ข้อ 1 ต้องฝนให้ตรงกับข้อที่ 1 ต้องมีสติ มีครั้งนึงตอนที่เราซ้อมที่บ้าน ลืมฝนข้อนึงแล้วไปฝนข้อถัดไปทำให้คำตอบมากกว่าช่องที่ฝน ไล่เป็นโดมิโน่ ผิดเรียงไปเลย ขอย้ำต้องคอยดูเลขข้อกับคำตอบให้ตรงกันด้วยจะได้ไม่เสียเวลา และ เสียคะแนนฟรี อีกเรื่องคือเวลา ควรลองจับเวลาแบบดูนาฬิกาจริงๆ แบบที่ไม่ใช้เวลานับถอยหลัง สมมุติเริ่มพาร์ทอ่าน เวลา 14.20 น. จะหมดเวลาตอน 15.35 น. เพราะฉะนั้นเวลาในการทำพาร์ท 5 คือจาก 14.20 น. นับไป 15 นาทีคือ 14.35 เราต้องทำพาร์ท 5 ให้เสร็จไม่งั้นไม่ทัน พอทำแบบนี้ไปเจอข้อสอบจริง สถานการณ์จริงจะไม่รู้สึกประหม่า

📍ขั้นตอนการจองสอบและการเตรียมตัวในห้องสอบ

การจองสอบโทอิค ศูนย์สอบ กทม. โทรไปจองสอบอย่างน้อย 1 วันทำการก่อนสอบ สำหรับเราโทรไปจองสอบประมาณ 7 วันล่วงหน้าก่อนสอบ เจ้าที่หน้าก็จะถามชื่อ – นามสกุล สะกดเป็นภาษาอังกฤษ เบอร์โทรติดต่อ วันเวลาที่จะสอบ เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายการตรวจ ATK ถ่ายรูปผลตรวจคู่กับบัตรประชาชน พาสปอร์ต หรือ ใบขับขี่ เขียนชื่อ-นามสกุล (ภาษาอังกฤษ นามสกุลใช้ตัวอักษรหน้าสุดแล้วจุด) วันที่ เวลาตรวจ **เขียนข้อมูลลงบน ATK เท่านั้น ถ่ายรูปคู่บัตร ผลตรวจต้องตรวจก่อน 1 วันหรือ ภายในวันก่อนสอบเท่านั้น จากนั้นเราเลือกสอบรอบบ่ายเวลา 13.30 น. เพราะจะได้ไม่ต้องรีบมาก มีเวลากินข้าว ทำธุระต่างๆ เผื่อเวลารถติดด้วย ไปถึงที่ตึก BB จะมีพี่ยามคอยกดชั้นสอบให้ แค่บอกว่าจะไปสอบโทอิค เขาจะกดให้เราไปที่ชั้น 19 พอรู้วันเวลาที่สอบแล้วให้เตรียมตัวไปเช็คอินก่อนเข้าห้องสอบประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง เราไปถึงที่ตึกช่วง 12.30 น. ก็ขึ้นไปเช็คอินที่ชั้น 19 เขาก็จะให้ต่อแถวเช็คชื่อ เช็คผลตรวจโควิด ATK ที่ตรวจมาจากบ้าน โชว์รูปในโทรศัพท์ รับปากกา เข้าไปทำเรื่องจ่ายเงิน คนที่รับผลสอบทางไปรษณีย์ เขาจะให้ซองสีขาว เขียนชื่อที่อยู่ พร้อมเสียค่าส่งอีก 50 บาท (ต้องจ่ายเงินสดเท่านั้นไม่รับเงินโอน เพราะฉะนั้นเตรียมเงินสดไปด้วยจะได้ไม่เสียเวลาลงมากด ATM ด้านล่าง) จากนั้นถ่ายรูป ทำเรื่องจ่ายเงินค่าสอบทั้งหมด 1800 บาท เสร็จก็ไปที่ช่องรับฝากของ แนะนำให้พกสิ่งของมีค่าติดตัวไปไม่ต้องเยอะมาก ห้องฝากของจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสิ่งของของเรา แต่ทางศูนย์ไม่รับประกัน ถ้าเกิดกรณีสูญหาย สำหรับเราพกไปแค่โทรศัพท์กับกระเป๋าตังมีเงินพอจ่ายค่าสอบกับเผื่อกรณีฉุกเฉินนิดหน่อย พอเสร็จทุกอย่างก็ต่อแถวเข้าห้องสอบได้เลย เข้าไปเตรียมตัวให้ห้องสอบนั่งฟังเสียงวิทยุอธิบายขั้นตอนต่างๆ ทำใจให้โล่ง ไม่ต้องคิดมาก พยายามอย่าให้ตัวเองตื่นเต้น เจ้าหน้าที่จะให้เราฝนชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ข้อมูลต่างๆ แล้วก็ฝนแบบสอบถาม พอฝนทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะถึงเวลาเริ่มทำข้อสอบ เจ้าหน้าที่ก็จะแจกข้อสอบ พร้อมแจ้งเวลาเริ่มต้นการสอบที่กระดาน เวลาสอบทั้งหมด 2 ชั่วโมง แบ่งเป็นพาร์ท listening 45 นาที พาร์ท Reading อีก 75 นาที โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งเวลาที่เหลือในการทำข้อสอบเป็น 4 ช่วงในช่วงที่เราทำพาร์ท Reading คือ เหลือเวลาในการทำข้อสอบ 30 นาที ,15 นาที, 5 นาที และ 1 นาทีสุดท้าย โดยเวลาจะเริ่มนับจากการทำพาร์ทฟังเสร็จ อย่างเช่น ทำพาร์ทฟังเสร็จตอนเวลา 14.24 นาที เวลาในการทำพาร์ท Reading ก็จะเริ่มจากเวลานั้นนับไปอีก 75 นาที (แนะนำให้คำนวณเวลาในการทำข้อสอบให้ดี เพราะในห้องสอบจะไม่มีเวลาเป๊ะๆบอกว่าจาก 75 นาทีเราทำไปแล้วกี่นาที ต้องบวกลบคูณหารเอาเอง เพื่อจะได้จัดการเวลาในการทำข้อสอบได้ถูก) พอสอบเสร็จหมดเวลาทุกคนต้องวางดินสอทันที ห้ามฝนต่อมิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะเข้ามาหยิบกระดาษคำตอบไป แล้วถือว่าการสอบเป็นโมฆะ เพราะถือว่าส่อทุตจริต และมีผลต่อการสอบครั้งถัดไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเดินเก็บตัวข้อสอบและกระดาษคำตอบ แล้วปล่อยไปทีละแถวตามลำดับ ออกจากห้องสอบรับของกลับบ้านไปรอคะแนนได้เลย

🎧พาร์ทฟัง

เราใช้เทคนิคตามช่อง youtube นี้เลย พิมพ์ค้นหาว่า “แชร์เทคนิคทำข้อสอบ Listening ที่ทำให้ได้คะแนน 480 เต็ม 495 ||| TOEIC 2020” เป็นประโยชน์มาก ตอนซ้อมฟังไม่ทัน ตอบไม่ได้หลุดไปหลายข้อ แต่พอรู้เทคนิคการทำข้อสอบพาร์ทฟังจากช่องนี้ ทำให้จับจุดได้ ฝึกเรื่อยๆคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาก


👉🏻พาร์ท 1 รูปภาพ มี 6 ข้อ เป็นพาร์ทที่ควรเก็บคะแนนควรทำให้ได้ทุกข้อ โดยเราจะดูรูปทั้งหมดก่อน ใครทำอะไรบ้าง รายละเอียดเป็นยังไง โต๊ะอยู่นิ่งๆไหม คนเดิน คนวิ่ง ดูทุกรูปแบบละเอียดแล้วคิดคำศัพท์ที่เป็นไปได้ในหัว พอเสียงพูดมาจะได้ตอบได้เลย โดยเราจะใช้ดินสอไล่ไปตามเสียง ABCD เจอเสียงไหนใช่ก็ตอบเลย


👉🏻พาร์ท 2 ถาม-ตอบ จะมีเสียงอธิบายวิธีการทำ ให้เราใช้ช่วงเวลานี้ทำสมาธิ เพราะไม่มีช้อยส์ กับคำถามในข้อสอบเลย เป็นแค่คนถามตอบ ให้เราเลือกคำตอบที่สอดคล้องกับคำถามมากที่สุด โดยจับ keywords จากคำถาม What where when why และ yes-no question แล้วก็จะมีข้อหลอกไม่ถามแบบตรงๆ ถามอ้อมๆเพื่อให้เราหลงกล อันนี้ต้องระวัง เพราะถ้าหลุดแล้วหลุดเลย ตั้งสติให้ดี


👉🏻พาร์ท 3-4 บทสนทนา – เสียงประกาศ วิทยุ โฆษณา พาร์ทนี้สำหรับเราว่าง่ายกว่าพาร์ท 2 เพราะในข้อสอบมีคำถามและช้อยส์ให้ เวลาทำพาร์ทนี้ ใช้เวลาในช่วงที่เขาอธิบายวิธีการให้เป็นประโยชน์ อ่านคำถามแบบย่อๆ รวบรัด เช่น หญิงทำไร ชายทำงานอะไร ชายไปไหน แล้วท่องคำถามให้จำได้ เวลาที่เหลือเอาไป skim ช้อยส์รอ เสียงพูดมาปั้บตอบไล่ไปเป็นข้อๆเลย keywords จะมีอยู่ในทุกประโยคที่พูด จับ keywords อันไหนที่เราได้ยินแล้วตรงกับช้อยส์ก็ตอบเลย แต่ระวังบางข้อก็หลอกเรา บางข้อก็พูดแบบย้ำ แทบจะบอกคำตอบเลย ส่วนตัวทำพาร์ทนี้มีหลุดไปบางข้อ ทำให้เสียคะแนนไป แต่ถ้าหลุดแล้วแก้อะไรไม่ได้ นอกจากตั้งสติ อ่านข้อต่อไป

📖 พาร์ทอ่าน

ส่วนตัวพอมีพื้นฐานนิดหน่อย แต่ลืมไปเยอะมากไม่ได้ใช้นาน ต้องกลับมารื้อฟื้นความจำที่หายไป วิธีการเหมือนเดิมหาคลิปฟรีใน youtube ดูไปเลย ดูแทนซีรีย์สนุกมาก โดยเฉพาะคลิปฟรีของครูดิว เพลงที่ร้องคือจำติดหัวเอาออกไม่ได้เลย ดูเทคนิค tips and tricks จากช่องอื่นๆประกอบ


👉🏻พาร์ท 5 คือพาร์ท grammar ข้อสอบที่เราซ้อมที่บ้านคิดว่ายากกว่าของจริง ของจริงคือเรามองแล้วตอบได้เลย ไม่ได้ใช้เวลาคิดนาน นอกจากข้อที่ทดสอบคำศัพท์ เราจะทำพาร์ทนี้ให้เสร็จภายใน 15 นาที ทั้งหมด 30 ข้อ ข้อไหนตอบไม่ได้ก็ฝนไปเลย สักข้อนึง อย่าเสียเวลา จะทำให้เรามีเวลาเหลืออีก 1 ชม. สำหรับพาร์ทอื่น


👉🏻พาร์ท 6 เติมคำในช่องว่าง ส่วนมากวัดคำศัพท์ กับ grammar แล้วก็ความเข้าใจในบทความ ส่วนตัวคิดว่ามีข้อยากข้อง่ายสลับกัน บางบทความอ่านรอบเดียวรู้เรื่อง บางบทความอ่าน 2 รอบแล้วอ่านอีกก็ยัง งง แนะนำให้ทำข้อที่ทำได้ก่อน อันไหนไม่ได้ก็เดาจากบริบทเอา


👉🏻พาร์ท 7 บทความสั้นและยาว วัดความเข้าใจในการอ่านที่แท้จริง เราจะใช้เทคนิค skim และ scan โดยอ่านคำถามก่อนว่าถามอะไรบ้าง แบบย่อๆให้จำได้ เช่น พูดถึงอะไร แนะนำอะไร ข้อไหนบอกอะไรเกี่ยวกับคนนี้ จากนั้น skim บทความเร็วๆ แบบคร่าวๆใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว scan หาคำตอบในประโยค พูดง่ายแต่ทำยากมีอยู่จริง ข้อง่ายข้อยากสลับกันไป พาร์ทนี้เราเสียเวลาไปกับบทความนึงนานมาก เป็นบทความเกี่ยวกับชีวประวัติ ความสำเร็จของการผลิตหนัง อ่านหลายรอบก็ งง แนะนำให้ผ่านไปได้เลย อย่าเสียเวลาอ่านมันมาก เพราะเวลามันตามเราอยู่ เราก็ทำไปเรื่อยๆถึงประมาณข้อที่ 187 กรรมการประกาศเหลือ 1 นาทีสุดท้าย สติแตกมาก รีบฝนข้อที่เหลืออีก 13 ข้อ ที่คิดมาที่บ้านคือพังหมดคิดว่าถ้าไม่ทันจะดิ่งสักตัวเลือก แต่เวลานั้นคือไม่ทันคิด ABCD เรียงเลยแบบสวยงาม เหลือ 30 วิสุดท้าย กวาดตาเช็คทั้งฟัง ทั้งอ่าน ฝนครบไหม ครบแล้ววางดินสอทันที จบการทำข้อสอบ

📌การรับผลคะแนน

สามารถรับคะแนนเองได้หลังจากวันสอบ 1 วัน สำหรับผู้สอบที่สอบในวัน จ – ศ แต่สำหรับผู้สอบที่สอบในวันเสาร์จะสามารถรับคะแนนได้ในวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป ตั้งแต่เวลา 14.30 – 17.00 น. ส่วนของคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์ จะถูกส่งหลังจาก 2 วันทำการหลังสอบเสร็จ การรับผลคะแนนด้วยตัวเอง ใข้ใบเสร็จในวันที่สอบ กับ บัตรประชาชน หรือ ใบขับขี่ หรือ พาสปอร์ต แค่ 2 อย่าง เซ็นชื่อแล้วรับคะแนนได้เลย สำหรับคนที่ไม่สะดวก ต้องการให้ผู้อื่นรับแทน ด้านหลังใบเสร็จจะมีหนังสือมอบฉันทะให้ผู้อื่นรับแทนอยู่ โดยคะแนนทางศูนย์จะเก็บไว้ได้ถึง 90 วันหลังจากคะแนนออก

กดที่สองปุ่มนี้เพื่อไปโหลดข้อสอบฟรีได้เลยครับ

อ่านโพสต้นฉบับ

ชัยมงคล ด่านพูนผลณรงค์ รูปบัตรคะแนน
ชัยมงคล ด่านพูนผลณรงค์ รูปโพส
Facebook
Twitter