adjective vs adverb ต่างกันยังไง? ทำไมถึงมีความสำคัญ?

มาทำความเข้าใจ และดูวิธีใช้ง่ายๆในบทความนี้เลย

Admin

adjective กับ adverb นำมาใช้ยังไงนะ? ต่างกันยังไง มาอ่าน ทำความเข้าใจแบบง่ายๆ ในบทความนี้กัน

ปัญหาที่หลายๆ คนสงสัย adjective vs adverb ต่างกันอย่างไร บทความนี้แอดมินจะมาเขียนอธิบายให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ครับผม

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Adjective และ Adverb กัน

adj and adv คืออะไร

Adjective คือ คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำนามและสรรพนามในประโยค ซึ่งมักจะเป็นบุคคลหรือสิ่งของ

Adverb  คือ คำกริยาวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำกริยา(verb)ว่าทำอะไรอย่างไร หรือ เกิดอะไรอย่างไร , ขยายคำคุณศัพท์ (Adjective) และขยาย Adverb ด้วยกันเอง

ซึ่งต่างจากในภาษาไทยที่เราจะใช้ คำขยาย(คำวิเศษณ์ หรือ Adjective ) ขยายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น คำนามสรรพนาม คำกริยา และคำวิเศษณ์ด้วยกันเอง

ตัวอย่างเช่น

  • He’s a careful driver.

เขาเป็นคนขับรถที่มีความระมัดระวัง

careful เป็น adjective ขยายคำนามคือ driver

  • He drives carefully.

เขาขับอย่างระมัดระวัง

carefully เป็น adverb ขยายคำกริยาคือ drive

ศัพท์ของ Adverb ส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปศัพท์คล้าย Adjective แต่แค่เติม –ly เข้าไป เช่น

beautiful (Adj.)  >>>  beautifully (Adv.)

happy (Adj.)      >>>  happily (Adv.

ตัวอย่างเช่น

slow (adj.) / slowly (adv.) ช้า / อย่างช้า

  • He is a slow walker.

  เขาเป็นคนเดินที่ช้า

slow เป็น adj. เพราะขยาย walker (n.)

  • He walks slowly. 

  เขาเดินอย่างช้า

slowly เป็น adv. เพราะขยาย walks (v.)

แต่ก็มี adverbs บางคำที่มีรูปเหมือน adjective เช่น adjective/adverb ต่อไปนี้

hard/hard fast/fast late/late

ตัวอย่างเช่น

  • He is a fast learner.
    เขาเป็นคนเรียนรู้เร็ว
    fast เป็น adj. เพราะขยาย learner (n.)
  • He learns fast. / He runs fast. 
    ในที่นี้ fast เป็น adv. ขยาย learn และ run

และคำที่ลงท้ายด้วย -ly ไม่จำเป็นต้องเป็น adverb เสมอไป มีคำบางคำที่ลงท้ายด้วย -ly แต่เป็น adjective เช่น friendly lovely lonely lively silly 

 

ตำแหน่งการวางของ Adjective และ Adverb

เนื่องจากAdjective ใช้ขยายคำนาม เลยมักจะวาง Adjective ไว้หน้าคำนามที่ถูกขยาย แต่ก็มีตำแหน่งอื่นๆด้วย ซึ่งก็คือหลัง Verb to be และวางไว้หลังกริยาเชื่อม (Linking Verb) เช่น look, sound, taste, feel, appear, remain, smell

ตัวอย่างการวาง Adj. หลัง verb to be และหน้าคำนาม เช่น

  • John is a good worker.
    (จอห์นเป็นคนทำงานที่ดี)
  • She speaks perfect English.
    (เธอพูดภาษาอังกฤษได้สมบูรณ์แบบ)

ตัวอย่างการวางไว้หลังกริยาเชื่อม (Linking Verb) เช่น

  • My grandmother looks sad after the funeral.
    (คุณย่าของฉันดูเศร้าโศกหลังงานศพผ่านพ้นไป)

ส่วน Adverb ซึ่งเป็นคำขยาย verb, Adj. และขยาย Adv.ด้วยกันเองนั้น เลยมักถูกวางอยู่หน้าคำที่ถูกขยาย, ท้ายสุดของประโยค, วางไว้ในตำแหน่งหลังกรรมและหลังกริยา หรือหน้าสุดของประโยคแล้วมี comma คั่น

ตัวอย่างการวางตำแหน่งของ Adverb

  • He has already finished his thesis.
  • He has finished his thesis already.
    (เขาได้ทำวิทยานิพนธ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว)

ทั้งสองประโยคมีความหมายเหมือนกัน แต่ต่างกันแค่การวาง Adv.เท่านั้น



ตัวอย่างการวางAdverbหน้าสุดของประโยค แล้วมี comma คั่น

  • Sometimes, we do homework at the library.
    (บางทีเราทำการบ้านที่ห้องสมุด)

สรุปความแตกต่างของAdjective และ Adverb

สรุป-adj-adv

เพื่อเป็นการสรุปง่ายๆให้สั้นและกระชับที่สุด​ แอดมินได้ทำการเขียนสรุปง่ายๆไว้5ข้อให้เพื่อนๆได้เอาไว้ท่องหรืออ่านทวนได้ดังนี้

  1. Adjectiveใช้สำหรับขยายคำนามและสรรพนาม
  2. Adverbใช้สำหรับขยายคำกริยา ขยายAdjective และขยาย Adverb
  3. Adverb มีรูปศัพท์คล้าย Adjective แต่แค่เติม –ly
  4. Adjective มักถูกวางหน้าคำนาม หลังVerb to be และหลังกริยาเชื่อม 
  5. Adverbมักถูกวางอยู่หน้าคำที่ถูกขยาย, ท้ายสุดของประโยค, หลังกรรมและหลังกริยา หรือหน้าสุดของประโยคแล้วมี comma คั่น

สุดท้ายก่อนจากกันไป

เรื่องพวกนี้ไม่ได้ยาก แต่แค่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือจำไม่ได้ แอดแนะนำให้พยายามใช้เยอะๆ ฝึกบ่อยๆ เวลาเจอในข้อสอบจะได้เข้าใจมันครับ

แนะนำแอพ MMR TOEIC Reading Practice ให้เพื่อนๆ โหลดมาฝึกฝนกันครับ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังสงสัยว่า เจ้าแอพ MMR TOEIC Reading คืออะไร มีดีอะไรที่ต้องโหลด ผมสรุปมาให้ ตามนี้เลยครับ

  • เป็นแอพที่รวมข้อสอบ TOEIC ใหม่ล่าสุดปี 2023 ย้ำว่าเป็นข้อสอบใหม่ทั้งหมด
  • มีข้อสอบมากถึง 3,000 ข้อ จากข้อสอบ 30 ชุด และจะเพิ่มเรื่อยๆ
  • มีข้อสอบใหม่อัพเดทเพิ่มตลอด
  • มีเฉลยภาษาไทย ละเอียดยิบ ทุกข้อ
  • มีซัพพอร์ตทีม คนไทย คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา
  • ไม่ต้องเสียค่า subscription รายเดือน โหลดครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดชีพ

แอพนี้ผมกล้าการันตีว่าคุ้มค่ากับการดาวน์โหลดแน่นอนครับ มีให้ใช้ทั้งสอง platform ทั้ง IOS และ Android สามารถโหลดได้กดที่ปุ่มข้างล่างนี้ได้เลย